ตอนนี้ทุกคนคงสงสัยเหมือนกันใช่ไหมครับว่าทำไมหมอนยางพาราของไทย ที่คนไทยเองดูเหมือนจะนิยมในเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่กลับฮิตข้ามประเทศไปถึงเมืองจีน มันดีจริงๆหรอ? และทำไมมันขายแพงจัง? ซื้อแล้วจะได้ของปลอมหรือเกรดห่วยหรือเปล่า?
หนึ่งในบทความที่ผมไปอ่านเจอมาที่ Mafongwo ภายในบทความนี้ได้อธิบายถึงหมอนยางพาราอย่างละเอียดในมุมมองของชาวจีน เริ่มกันต้องแต่
หมอนยางพาราไทยดีอย่างไร
หมอนยางพารา โดยธรรมชาตินั้นจะมีความยึดหยุ่น นุ่มนิ่ม แต่ไม่ถึกับยุบตัวเหมือนหมอนใยสังเคราะห์ มีการระบบายอากาศได้ดี ช่วยรองรับแรงกดทับของศรีษะได้อย่างดี ไม่นุ่มและแข็งจนเกินไป แพทย์ผู้เชียวชาญด้าน Orthopedic ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ใช้สินค้ายางพาราในการนอน ที่สำคัญด้วยความเป็นยางพาราแท้ ทำให้ไม่มีไรฝุ่น เพราะธรรมชาตินั้นไรฝุ่นจะไม่ชอบโปรตีนในน้ำยางพารานั้นเอง และทำไมต้องเป็นยางพาราที่ไทยเท่านั้น ก็เพราะว่าหมอนยางพาราผลิตมาจากน้ำยางพาราธรรมชาติแท้ ที่มีสีขาวขุ่น ซึ่งได้มาจากต้นยางนั้นเอง และต้นยางที่ดีมักจะชอบอยู่ในเขตร้อนชื้น ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ประเทศ ที่นอกจากไทยแล้วก็มี อินโดนิเซีย และมาเลเซีย สิ่งๆนี้ที่เป็นหัวใจหลักว่าทำไมนักcopy อย่างจีนจึงไม่สามารถเลียนแบบยางพาราแท้คุณภาพดีที่สุดในโลกอย่างไทยได้นั้นเอง
ทำไมบางทีขายแพง บางทีขายถูก ทั้งๆหน้าตาก็เหมือนกัน
อย่างที่แอดได้กล่าวมาแล้วครับว่า ยางพารานั้นมีหลายเกรดมากๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปริมาณน้ำยางพาราธรรมชาติที่ใช้ในการผลิต, สูตรการผลิตของแต่ละโรงงาน, การเก็บรักษาน้ำยางพารา หรือแม้แต่เรื่องของการตลาด ใครทำแบรนด์ได้ดูดีและดังกว่า แต่แอดให้ข้อสังเกตง่ายๆ ในการเลือกซื้อหมอน โดยใช้วิธีคิดจากคนจีนนี่หละ สังเกตว่าคนจีนส่วนใหญ่มักจะซื้อหมอนที่ผลิตจากโรงงานที่มาตรฐาน ถามว่ารู้ได้อย่างไร รู้ได้ครับ เพราะโรงงานที่จะส่งออกหมอนยางพาราได้นั้นต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและสูตรการผลิต จากสถาบันกลาง อย่างเช่น SGS โดยหมอนที่มีคุณภาพสูงๆหรือเกรดเอนั้น ใช้น้ำยางพาราแท้ถึง 93-95 % เลยทีเดียว หรือแม้แต่โรงงานที่มี ISO ย่อมการันตีแล้วว่ามีการควบคุมคุณภาพได้นิ่งอย่างแน่นอน ในขณะโรงงานที่ไม่มาตรฐาน หรือบางแหล่งก็เป็นชุมชนที่ชาวบ้านตั้งผลิตหมอนยางพารา ช่วยกันผสมและกวนน้ำยาง และเทน้ำยางพาราลงในตัวหล่อ แบบนั้นอาจเกิดความผิดพลาดทั้งสูตรการผลิต รวมถึงความถูกต้องในการผลิต ดังนั้นจะซื้ออะไรจากใครก็ถามไปเลยครับว่าสินค้าคุณมีมาตรฐานอย่างไร
- ส่วนที่ทำไมหมอนยางพาราในจีน ราคาสูงกันไปถึงใบละ 3500 บาท มันก็มีเหตุผลอยู่นะครับ แม้ว่าในไทยจะบอกว่าเกษตรกรยางพาราลำบาก
- ต้นยางผลิตน้ำยางคุณภาพได้ดีจริงๆ แค่ประมาณ 20-25 ปีต่อต้น
- ต้นยาผลิตน้ำยางสดได้เพียง 300 กรัมต่อวัน และกว่าจะแห้งลงเหลือเพียว 100 g ที่นำมาใช้ได้จริง
- หมอนยางพาราเฉลียหนักใบละ 1.3 กิโลกรัม ดังนั้นต้องใช้น้ำยางประมาณ1300 g ซึ่งเท่ากับต้องใช้ต้นยาง 13 ต้นต่อ 1 วัน
วิธีการเลือกหมอนแบบกรณีที่ไม่เดินเจอ ไม่สามารถดูใบรับรองจากโรงงานได้
- หมอนนั้นต้องไม่แตกง่าย หมายความว่าเวลาเราดึงหรือยึดหมอนออกจากกันนั้น ผิวหน้าของหมอนไม่ควรจะขาดออกง่ายเกินปกติ
- น้ำหนักของหมอนควรจะมีน้ำหนักเฉลี่ย1.2-1.3กิโลกรัม
- กลิ่นของหมอนยางพารา ของจริงควรมีกลิ่นแน่นอนครับ แต่ปัจจุบันหมอนที่มีคุณภาพดี ส่งออกไปจีน กลิ่นจะมีแต่ไม่แรงเหมือนหมอนที่ผลิตตามแบบเก่าๆครับ ดังนั้นกลิ่นที่แรงไปก็ไม่อาจะแน่ใจว่าเป็นยางพาราแท้คุณภาพดีนะครับ
ท้ายที่สุดแล้วการเลือกหมอนยางพาราอาจจะดูซับซ้อนนะครับ แต่ถ้าพอเข้าใจสิ่งที่ผมอธิบายไปไม่มากก็น้อย ผมเชื่อว่าท่านเหล่านั้นจะสามารถเลือกดูหมอนได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอนครับ
